แบตเตอรี่ GS LN3 แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้ง ( MF ) ขนาด 75 แอมป์ CCA 720 รับประกัน 1 ปี จัดจำหน่ายโดย ร้านแบตเตอรี่ พงษ์แบตเตอรี่ Pongbattery ส่งฟรี ติดตั้งฟรี รูดบัตรได้ไม่ชาร์จ
คุณสมบัติเด่นของ แบตเตอรี่ รถยนต์ GS
คุณสมบัติเด่นของ แบตเตอรี่รถยนต์ชนิดกึ่งแห้ง GS คือ แทบจะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ มีไฟแรง และค่า CCA สูง
แบตเตอรี่ GS รถยุโรป เป็นแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถยนต์ เพราะตัวแบตเตอรี่เป็น แบตเตอรี่ ชนิด กึ่งแห้ง หรือ ชนิด Maintenance free ( MF) เป็นแบตเตอรี่ ที่แทบตลอดการใช้งานแทบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลย จึงทำให้สะดวกต่อการใช้งาน จ่ายไฟดี ค่า CCA สูง เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ นึกถึง ร้านแบตเตอรี่ พงษ์แบตเตอรี่ Pongbattery
แบตเตอรี่ GS LN3 เหมาะสำหรับรถยนต์
- HONDA :CRV
- TOYOTA : FORTUNER , INNOVA ,REVO, MAJESTY
- FORD : EVEREST , RANGER
- MAZDA : BT50PRO
- HYUNDAI : ELANTRA , TUCSON
- CHEVROLET : CAPTIVA,CRUZE, COROLADO,TRIAL BLAZER , ZERFIRA
- AUDI : A3 ,A4 , A5 ,A6 ,TT
- VOLVO : 940 GLE,960 ,S40 ,S60 ,S80 ,S90 ,V40 ,V50 ,V60 ,V70 , XC60
- PEUGEOT : 406, 407 ,607
- VOKSWAGEN : GOLF, PASSAT ,VENTO ,SCIROCCO
- BMW : X1 , Z4
- Nissan : X-Trail Hybrid
- Benz : CLA200 , CLA250, SLK R170 , SLK R171 , GLA200, GLA250
การรับประกัน แบตเตอรี่ GS LN3
รายละเอียดการรับประกันแบตเตอรี่
ทางบริษัทฯ จะรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
ความเสียหายที่เกิดจากกระบวนการผลิต
- แบตเตอรี่รับประกัน 12 เดือน หรือ 20,000 กิโลเมตร โดยนับจากวันที่ซื้อแบตเตอรี่โดยแล้วแต่ระยะใดถึงก่อน สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น มิใช่เพื่อรับจ้างและการพาณิชย์
- ในกรณีแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือใช้งานไม่ได้ ก่อนสิ้นระยะเวลารับประกัน และ บริษัทฯ ได้พิจารณาชดเชยแบตเตอรี่ใหม่ให้แก่ลูกค้าตามที่เรียกร้องแล้วนั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการชดเชยสินค้าเพียง 1 ครั้ง หรือ 1 ลูกเท่านั้น โดยนับระยะเวลาประกันต่อเนื่องจากระยะเวลารับประกันที่เหลือของแบตเตอรี่ลูกเดิมที่นำมาเคลม
ข้อยกเว้นในการรับประกันแบตเตอรี่
- พ้นกำหนดระยะเวลารับประกัน
- สามารถชาร์จไฟคืนได้
- ไม่มีใบรับประกัน , ไม่กรอกรายละเอียดที่ครบถ้วนชัดเจน และมีการแก้ไขดัดแปลงข้อความที่ระบุไว้, ไม่ระบุวันที่ขาย/ติดตั้ง
- สติกเกอร์หลุดหาย, ฉีกขาดและลอกไม่ถูกต้อง (ขอให้ระบุรุ่น,ยี่ห้อรถที่ติดตั้งและระยะการใช้งานโดยประมาณ)
- ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดประเภท หรือปฎิบัติไม่ถูกต้อง
- แบตเตอรี่แตก รั่ว ซึม ตกกระแทก ระเบิด การทุบและกระแทกจากภายนอก
- การต่อแบตเตอรี่ผิดขั้ว
- เกิดความบกพร่องของตัวรถยนต์เอง เช่น ระบบไฟรถยนต์รั่ว ไฟลัดวงจร
- ระบบไดชาร์จ และไดสตาร์ทของรถยนต์เกิดความบกพร่องซึ่งไม่สามารถชาร์จไฟได้ และสตาร์ทได้
- การอัดประจุไฟฟ้ามากเกินไป ( Over Charge ) และการปล่อยประจุไฟฟ้ามากเกินไป ( Over Discharge )
- ดูแลระดับกรดไม่ดีจนระดับน้ำกลั่นต่ำกว่าระดับต่ำสุด และเกินกว่าระดับสูงสุดที่กำหนดไว้
- เติมสารใดที่ไม่ใช่น้ำกลั่น บริสุทธิ์ หรือน้ำกรดที่ใช้กับแบตเตอรี่
- ขาดการบำรุงรักษา และขาดการทำความสะอาด ทำให้จุกอุดตันและก่อให้เกิดปัญหากับแบตเตอรี่
- สาเหตุอื่นๆ ที่เกิดจากการต่อพ่วงแบตเตอรี่กับอุปกรณ์ภายนอก และนำมาซึ่งความเสียหายต่อแบตเตอรี่
- การเกิดอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ความประมาทเลินเล่อ ความบกพร่องจากผู้ใช้ หรือช่างขาดความชำนาญ
- แบตเตอรี่ถูกนำไปใช้งานผิดวัตถุประสงค์ นอกเหนือจากการสตาร์ทรถยนต์
- มีการแก้ไขดัดแปลง ซ่อมแซม ต่อเติมอุปกรณ์ใดๆ บนแบตเตอรี่ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- มีการพลิกคว่ำแบตเตอรี่
- กรณีเปลี่ยนแบตเตอรี่ไปใส่ในรถที่อยู่นอกเหนือจากใบรับประกัน
วิธีการบำรุงรักษาและตรวจสอบแบตเตอรี่รถยนต์-GS–LN3
-
การตรวจระดับน้ำกรด และเติมน้ำกลั่น
การตรวจระดับน้ำกรด
- ตรวจสอบระดับน้ำกรดอย่างน้อยทุกๆ 6เดือน หรือ 10,000 kms. หลังจากเริ่มใช้งานแบตเตอรี่และเติมน้ำกลั่นเมื่อสังเกตุเห็นว่าระดับของน้ำกรดลดลงเพื่อความปรอดภัยและยืออายุในการใช้งาน
- ระดับน้ำกรดที่เหมาะสมในกรณีเป็นหม้อสี เช่น สีดำหรือสีอื่นๆ ให้สังเกตุจากขอบล่างหรือปลายของรูระบายดังภาพที่แสดง และ/หรือให้สังเกตุจากสีของตาแมว ถ้าเป็นสีแดงให้เติมน้ำกลั่น จนกว่าตาแมวเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน (ในกรณีที่มีเส้นบอกระดับน้ำกรด เติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับระหว่างเส้น Lower และ Upper)
- กรณีแบตเตอรี่มีระดับน้ำกรดอยู่ระหว่างเส้นล่าง และเส้นบน แนะนำให้เติมน้ำกลั่นเพิ่ม ไม่ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีระดับน้ำกรดต่ำกว่าเส้นล่าง
- การฝืนใช้งานแบตเตอรี่ที่มีระดับน้ำกรดต่ำกว่าเส้นระดับล่าง อาจจะทำให้ชิ้นส่วนโลหะภายในสึกกร่อน น้ำแห้งเร็วขึ้น และมีความเสี่ยงในการระเบิดสูง ดังนั้นขอแนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่
- เมื่อระดับน้ำกรดลดต่ำกว่าเส้นขีดต่ำแล้ว จะมีผลทำให้แผ่นธาตุแบตเตอรี่ร่วง ถึงแม้ว่าจะเติมน้ำกลั่นเพิ่มก็ตาม น้ำก็จะลดลงอีกและจะเป็นอันตราย โปรดเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ทันที
น้ำที่จะใช้เติมเพิ่มในแบตเตอรี่
3. เตรียมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่จะใช้เติมแบตเตอรี่เท่านั้น
-
- หาซื้อน้ำกลั่นบริสุทธิได้จากร้านจำหน่ายแบตเตอรี่ทั่วไป
4. หมุนจุกช่องเติมออก ในกรณีที่มองไม่เห็นระดับน้ำให้ใช้ไฟฉายส่องดูระดับน้ำ เท่านั้น
5. เติมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ลงในช่องเติม ให้ระดับน้ำมาอยู่ในเส้นบน (Upper Level)
-
- ห้ามเติมน้ำกลั่นเกินกว่าเส้นระดับบน (Upper Level)
- ใช้เฉพาะน้ำกลั่นบริสุทธิ์เติมเท่านั้น ห้ามใช้น้ำอื่นๆเติม
6. ใช้ผ้าชุบน้ำ เช็ดทำความสะอาดคราบน้ำที่เลอะแบตเตอรี่
-
การทำความสะอาดแบตเตอรี่
เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำ
- ห้ามเช็ดด้วยผ้าแห้ง
- ห้ามทำความสะอาดด้วย ผงซักฟอก น้ำมันเบนซิน ทินเนอร์ น้ำมัน ที่เป็นสารละลายอินทรีย์ เป็นต้น
- ตรวจเช็คสายไฟขั้วต่อและเหล็กยึดแบตเตอรี่
- สายไฟขั้วต่อ และเหล็กยึดแบตเตอรี่ ติดตั้งแน่นหนาหรือไม่
- ถ้าพบว่าไม่แน่น โปรดขันน๊อตให้แน่น
-
การทำความสะอาดแบตเตอรี่
เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำ
- ห้ามเช็ดด้วยผ้าแห้ง
- ห้ามทำความสะอาดด้วย ผงซักฟอก น้ำมันเบนซิน ทินเนอร์ น้ำมัน ที่เป็นสารละลายอินทรีย์ เป็นต้น
- ตรวจเช็คสายไฟขั้วต่อและเหล็กยึดแบตเตอรี่
- สายไฟขั้วต่อ และเหล็กยึดแบตเตอรี่ ติดตั้งแน่นหนาหรือไม่
- ถ้าพบว่าไม่แน่น โปรดขันน๊อตให้แน่น
เมื่อ แบตเตอรี่รถยนต์-GS–LN3 ไฟหมด
-
การใช้สายพ่วงสตาร์ทเครื่องยนต์ (Jump starting)
รถกู้ภัยที่มาช่วยเหลือจะต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีกระแสไฟเท่ากัน ( 12 โวลต์ หรือ 24 โวลต์ ) และขนาดเท่ากันกับ รถที่มีปัญหา โดย ใช้สายพ่วงสตาร์ทเครื่องยนต์ (booster ( jumper ) cables )
- วิธีการพ่วงที่อธิบายนี้เป็นตัวอย่างการพ่วงของรถยนต์แบบทั่วๆไป
- ดับเครื่องยนต์ทั้งรถกู้ภัยและรถที่เป็นปัญหา
- ก่อนอื่น ให้ตรวจดูระดับน้ำกรดในแบตเตอรี่ ถ้าระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าเส้นล่าง ( Lower Level ) ให้เติมน้ำเพิ่ม
- โปรดต่อสายพ่วงตามลำดับขั้น 1 > 2 > 3 > 4 ตามรูปภาพ
- หัวหนีบสายพ่วงตำแหน่งที่ 4 จะต้องอยู่ห่างจากแบตเตอรี่ โดยต่อที่ตัวถังรถยนต์
- ระมัดระวัง อย่าปล่อยให้สายพ่วงเข้าไปพันกับผัดลมระบายความร้อน (Cooling fan)
- ระมัดระวัง อย่าดึงสายพ่วงตึงและแรงเกินไป
- หัวหนีบสายพ่วงตำแหน่งที่ 4 จะต้องอยู่ห่างจากแบตเตอรี่ โดยต่อที่ตัวถังรถยนต์
- เริ่มจาก ติดเครื่องยนต์รถกู้ชีพก่อน พร้อมกับเร่งรอบเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย
- จากนั้น ติดเครื่องยนต์รถที่มีปัญหา
- เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว,ให้ถอดสายพ่วงกลับจาก 4 > 3 > 2 > 1
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์