ระบบการชาร์จไฟฟ้าของเครื่องยนต์
หลังจากทำการสตาร์ทรถยนต์ เครื่องยนต์จะทำการหมุนตลอดเวลาเพื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์ โดยพู่เล่เครื่องยนต์จะทำการหมุนโดยมีสายพานคล้องไว้ที่ไดชาร์จ จากนั้นไดชาร์จจะทำการหมุนบนสนามแม่เหล็กทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้า
เปลี่ยนจากพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า ออกมาโดยจะมีสัญญานไฟฟ้า 3 อย่าง คือ หลัก lamp สัญญาณเปิดสวิตซ์ เส้นสายไฟการชาร์จไฟฟ้า โดยจะมีอีก1 สายเป็นสายไฟจากหลักแบตเตอรี่ ขั้วบวก กระแสที่ปล่อยออกมาจะเป็นไฟฟ้ากระแสตรง DC Current ดังนั้นจึงจะมีไฟฟ้าจ่ายเป็น ขั้วบวก ขั้วลบ ชัดเจน ขั้วลบนั้นจะลงสู่ Ground ส่วนขั้วบวกจะมีสายไฟฟ้าทำงานหลักแบตเตอรี่ โดยจะทำการชาร์จไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่เมื่อแบตเตอรี่เต็มจะมีการตัดหยุดหยุดการชาร์จไฟฟ้า การใช้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดจึงดึงไฟฟ้าต่อจากแบตเตอรี่
เครื่องยนต์หมุน >สายพานคล้องจากเครื่องยนต์มาที่ไดชาร์จ ไดชาร์จหมุน>เปลี่ยนพลังงานกลเป็นไฟฟ้า> จ่ายไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ > แบตเตอรี่ส่งไฟฟ้าไปยังอุปรณ์ต่างๆภายในรถยนต์
อาการ ไดชาร์จ เสียเป็นอย่างไร
อาการชาร์จไฟฟ้าไม่เพียงพอหรือการชาร์จไฟฟ้าเกินล้วนเป็นความบกพร้องของไดชาร์จทั้งสิ้น ซึงผลลัพธ์ของทั้ง 2 อาการนั้นจะมีผลกับแบตเตอรี่ทั้งคู่ โดยทั่วไปไดชาร์จจะมีอายุ 5-10 ปีโดยประมาณ การชาร์จไฟฟ้า 13.00-15.00 volt อาการบกพร่องของไดชาร์จจะมี 2 แบบเรามาดูกัน
Under Charge หรือ การชาร์จไฟไม่เพียงพอ คือ อัตราการชาร์จไฟฟ้าของไดชาร์จ ชาร์จได้ต่ำกว่า 13.00 Volt เป็นผลให้พลังงานไฟฟ้าไม่เพียงพอกับการใช้งาน เมื่อพลังงานในแบตเตอรี่ เริ่มต่ำลง ไฟฟ้าภายในรถยนต์จะหรี่ลง เริ่มรวนๆอาการเหมือนไฟตก โดยจะมีไฟฟ้าขึ้นที่หน้าปัดเรือนไมค์ เป็นไฟ รูป “แบตเตอรี่สีแดง”เกิดขึ้น
เมื่อเกิดอาการนี้ให้หาที่จอดรถในที่ปลอดภัยแล้วโทรหาพงษ์แบตเตอรี่ทันที เนื่องจากฝืนขับรถ รถยนต์จะมีโอกาศดับได้ โดยอาการนี้ไม่ได้เปลี่ยนไดชาร์จแล้วหายเลยจะต้องทำการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มด้วย ซึ่งพงษ์แบตเตอรี่ของเรามีวิธีการเฉพาะตัวที่ช่วยเหลือฉุกเฉินได้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ทั้งที่แค่ไฟหมดไม่ได้เสีย
Over Charge หรือ การชาร์จไฟฟ้าเกิน คืออัตราการชาร์จไฟฟ้าสูงเกินกว่า 15.00 Volt เป็นผลให้พลังงานไฟฟ้าเกินกว่าการที่แบตเตอรี่จะรับไหว แบตเตอรี่จะเกิดความร้อนสูง ถ้าเป็นแบตน้ำหรือกึงแห้ง แบตเตอรี่จะมีการเดือดจนน้ำกลั่นแห้งแผ่นธาตุไหม้แบตเตอรี่เสียหาย ถ้าเป็นแบตแห้ง หรือ แบตชนิต SMF จะเกิดการบวม เสียหายเช่นกันการที่ไดชาร์จชาร์จไฟฟ้าเกิน นอกจากแบตเตอรี่เสียแล้ว ตัวไดชาร์จเองก็จะไหม้ แต่อย่าห่วงไปเลยครับพงษ์แบตเตอรี่ของเรามี บริการเปลี่ยนไดชาร์จนอกสถานที่ และ บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่นอกสถานที่ตลอด 24 ชม.
แบตเตอรี่ เสีย VS ไดชาร์จ เสีย
อาการแบตเตอรี่ไฟฟ้าหมด หรือ อาการแบตเตอรี่เสียโดยทั่วไปต่างกับอาการแบตเตอรี่หมด หรือ แบตเตอรี่เสียที่เกิดจากไดชาร์จทำงานผิดปกติต่างกัน โดยแบตเตอรี่เสียธรรมดา อาจไฟเต็มแต่ค่า CCA ไม่ถึง หรือ เก็บไฟฟ้าไม่อยู่ แต่ถ้าแบตเตอรี่เสียจากการทำงานของไดชาร์จผิดปกติ แบตเตอรี่จำไฟฟ้าหมดเกลี้ยง แบตเตอรี่บวม หรือ แบตเตอรี่มีการรั่วไหลของน้ำกรด ซึ่งจุดนี้ถ้าช่างมีประสบการณ์จะทำการวัดไดชาร์จและแจ้งใหม้ทำการซ่อมไดชาร์จก่อน เนื่องจากหากแบตเตอรี่เสียจากการทำงานผิดปกติจะอยู่นอกเหนือการรับประกันสินค้า
คุณจะเลือกซ่อม หรือ เปลี่ยน ไดชาร์จ ใหม่
ปัจจัยในการเลือกว่าจะซ่อมไดชาร์จหรือเปลี่ยนไดชาร์จใหม่นั้นดูจากความเสียหายของไดชาร์จว่าอะไหล่ภายในไดชาร์จมีอะไรเสียบ้างค่าซ่อมคุ้มหรือไม่ ปัจจัยเรื่องเวลาและ ความสะดวกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกเนื่องด้วยการเปลี่ยนนอกสถานที่โดยทั่วไปสามารถทำได้เลย แต่การถอดซ่อมไดชาร์จจะต้องถอดออกแล้วนำกลับมาที่ศูนย์ซ่อม เพื่อทำการซ่อมแซมเปลี่ยนอะไหล่ เทสไดชาร์จใหม่แล้วจึงนำกลับไปใส่ได้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือเป็นวัน ขึ้นอยู่กับชนิดไดชาร์จที่ซ่อมแซม และ อะไหล่ จากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นลูกค้าคงเลือกได้ว่าต้องการจะซ่อมหรือเปลี่ยนไดจากปัจจัยทั้งหมดข้างต้น
เปลี่ยนไดชาร์จที่ศูนย์ กับ Pong battery ต่างกันยังไง
การเปลี่ยนไดชาร์จไม่ว่าจะเป้น pong battery กับที่ศูนย์ผลลัพธ์นึงที่เหมือนกันเลยคือ ลูกค้าจะได้สินค้าคุณภาพดีกลับไปอย่างแน่นอน แต่ที่ pong battery มีสิ่งพิเศษที่ให้คุณได้มากกว่า ได้ประหยัดประหยัดค่าแรงถูกกว่าศูนย์ ประหยัดค่าสินค้าเพราะ สินค้าของเรามีทั้ง ไดชาร์จใหม่แท้ ได้ชาร์จOEM ไดชาร์จรีบิ้วใหม่ สินค้าทุกชิ้นมีรับประกันทุกลูก โดยเราสามารถบริการนอกสถานที่ได้ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียค่ารถยกหรือรถสไลท์
รู้เท่าทันช่างนิสัยไม่ดี
ความเชื่อใจนั้นเป็นสิ่งที่ให้กันยากในโลกยุคปัจจุบัน และ ยังมีช่างมากมายที่ทำไม่ดีจนวงการช่างเสื่อมเสียอีกต่างหาดเรามาดูกันครับว่าเราจะรู้ทันได้ยังไง
1. พูดว่าไดชาร์จเสียโดยไม่ใช้เครื่องมือวัด การจะทราบว่าไดชาร์จเสียกรือไม่อย่างแท้จริงจะต้องใช้เครื่องมือวัดว่าค่าพลังงานไฟฟ้า voltage มีค่าเท่าไหร่ อย่างที่กล่าวมาข้างต้นคือปริมาณของการชาร์จจะต้องอยู่ 13.00-15.00 V
2. ระหว่างทำการชาร์จมีการถอดปลั๊ค ซึ่งช่างหลายคนที่คิดไม่ดีทำเป็นประจำโดยการถอดปลั๊คออก จะเห็นได้ว่าค่าการชาร์จไฟฟ้าต่ำลง
3. แอบถอดสายหลักแบตออก ก็จะทำให้ volt การชาร์จนั้นต่ำลง
4. ซ่อมไดชาร์จแล้วทำอุปกรณ์อื่นแตกเสียหายไปด้วย เพี่อจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม